วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560

มุมมองจากหนัง



เมื่อวานดูหนังจบไป 2 เรื่อง  ให้ข้อคิดที่แตกต่างกัน

หนังเรื่องแรกที่ดู

The finest hours ชั่วโมงระทึกฝ่าวิกฤตทะเลเดือด



เรื่องนี้สำหรับเรา ดูแล้ว เรารู้สึก ทำให้เห็นถึงคุณค่าของการมีชีวิตมากขึ้น
เรื่องนี้ทำให้เห็นถึง 2 อาชีพ ที่มีความเสี่ยงกับทะเล
ทั้งคนที่ต้องเดินเรือ บรรทุกสินค้า ไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ท้องฟ้าจะวิกฤติแปรปรวนตอนไหน
จะเกิดพายุกลางทะเล ทำให้เรืออับปางลงเมื่อไหร่ 
และคนที่ทำอาชีพ ยามดูแลชายฝั่ง เวลาที่มีพายุรุนแรง แล้วต้องออกไปช่วยคนในขณะนั่น
จะเลือกโกหก รักษาชีวิตรอด แกล้งหลงทาง หรือ ช่วยเหลือชีวิตคน แต่อาจไม่รอดกลับมา
เป็นเรื่องที่ดูแล้วถือว่า ลุ้นตั้งแต่ต้นเรื่อง จนจบเรื่อง ซึ้ง ดีใจที่กลับมาได้

 ทุกวิฤติ ย่อมสร้างวีรบุรุษเสมอ 
เห็นการแก้ปัญหาในยามวิกฤติของมนุษย์ ในเรื่องนี้ถึง 2 คน
คนแรกจากคนขับเรือ ที่รู้จักเรือดีที่สุด คนที่รับฟังเค้ามี แค่ 2 คนในเรือ แต่ยามวิกฤติ
เค้าคือผู้ช่วยชีวิตคนทั้งเรือ หาวิธีแก้ปัญหา ทำยังไงให้เรือ อยู่นิ่งๆ และ ไม่จมได้นานที่สุด
ทั้งที่เรือเริ่มชำรุด และกำลังจะอับปางลง  ต้องกลายเป็นผู้นำคน และสร้างให้คนที่อยู่ตำแหน่งสูงกว่า
เชื่อในสิ่งที่เค้าบอก  เพื่อให้ทุกคนเห็นเป็นฝั่งเดียวกัน และสามัคคี ทำตามกัน จนรอดมาได้

คนที่สอง จากคนที่เคยมีปมในปีก่อนหน้า แต่พอได้รับภารกิจที่ต้องลุยฟ่าพายุไปช่วยคน
เป็นคนที่ยึดมั่นตามกฏและเชื่อในกฏมาก   ไม่มีคำว่าแหกกฏ อยู่ในกรอบ
แม้กระทั่งเรื่องแต่งงาน ในกฏก็แค่เขียนไว้ว่าต้องแจ้งผู้บังคับบัญชา ตัวละครตัวนี้
ก็ต้องไปพูดขออนุญาติ ไม่งั้นรู้สึกว่าทำผิดกฏ  แสดงให้เห็นถึงเนื้อในของตัวละคร
แม้ขนาดที่ได้รับภารกิจ รู้ว่ามีโอกาสไม่รอดกลับมาสูงกว่า แต่ก็ต้องไป 
ขนาดถึงกลางทางที่เลยจุดที่อันตรายที่สุดมาแล้ว  เข็มทิศหาย วิทยุขาดการเชื่อมต่อ
หลายคนในทีมบอกให้กลับ แต่ด้วยเป็นคนทำตามกฏ  และคิดถึงคนที่รอความช่วยเหลือ
จึงเดินหน้าต่อ โดยใช้ความฉลาดของพระเอก เดินทางโดยอาศัยสัมผัสลมทะเล และ
ปิดไฟนำทางเพื่อใช้สายตามองให้เห็น จนสุดท้ายก็ได้พบเรือพร้อมผู้คนจำนวนมาก

ปัญหาเกิดขึ้นอีก เพราะเรือรับได้จุสูงสุด 20-22 คน แต่คนรอดชีวิต มีมากถึง 32 คน
คนในทีมให้ความเห็นว่า พากลับก่อนจำนวนหนึ่งแล้วค่อยมารับกลับอีกครั้ง
ตัวละครพระเอกยังคงหนักแน่น เนื่องจากมองเห็นเรือลำใหญ่ครั้งหน้า ที่กำลังจะอับปางลง
ถ้าไม่ให้ขึ้นเรือทั้งหมด คนที่เหลืออยู่ รอความช่วยเหลือ อาจจะไม่ทันเวลา
ก็รับลงมาหมด  และพูดประโยคกินใจว่า รอดก็ต้องรอดด้วยกันทั้งหมด ถ้าตายก็ตายทั้งหมด
ถึงคร่าวปัญหามาอีกแล้ว เข็มทิศไม่มี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนของกลางทะเล
จะพาทุกคนกลับฝั่งยังไง   วิทยุกลับฝั่ง ถูกสั่งให้พาไปขึ้นเรือลำใหญ่อีกลำข้างๆ
เป็นครั้งแรกที่พระเอก ตัดสินใจ ฝืนคำบังคับบัญชา เพราะเค้ารู้แล้วว่า เค้าเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า
มากกว่า เค้าเพิ่งช่วยคนจากเรือใหญ่ จะพาคนทั้งหมด กลับขึ้นเรือใหญ่อีก คงไม่ใช่แนวทาง
เลือกตัดวิทยุลง  และเชื่อตัวเองความฉลาดของพระเอกมาอีกครั้ง
ปล่อยให้เรือโดนคลื่นซัดไปตามทะเล เพื่อรอให้พายุสงบลง แล้วค่อยตามแสงไฟ ไปถึงฝั่ง
เนื่องจากคลื่นจะซัดเข้าหาฝั่งอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องโต้คลื่น เพื่อไปให้ไกล
สุดท้ายแล้วก็พากันกลับมาถึง
คนที่รอก็ช่วยกันเปิดแสงไฟจากรถ เพื่อเป็นแสงนำทางให้คนที่อยู่กลางทะเลเห็น
เมื่อผ่านวิกฤติมาได้ คนที่รักกัน เจอหน้ากัน เหมือนได้เข้าใจในความรักของกันและกันมากขึ้น
เข้าใจความหมายของการมีชีวิตมากขึ้น  เป็นเรื่องที่ดูแล้วซึ้ง กินใจ เข้าใจในแต่ละตัวละคร
เข้าใจความเป็นมนุษย์ ทุกคนอยากมีชีวิตรอด แต่สุดท้าย ในทุกวิกฤติถ้าผ่านมาได้
ก็จะได้สร้างวีรบุรุษเช่นกัน

เรื่องที่สองที่ได้ดู

Don't Breathe ลมหายใจสั่งตาย


เป็นเรื่องที่บีบคั้นหัวใจสุดๆ แต่ก็ได้เห็นความเห็นแก่ตัวของทุกตัวละครนะ
ทุกตัวละคร มีความเลวในตัวทั้งหมด  ความน่าสงสารในตัวละคร
ความยับยั่งชั่งใจของแต่ละตัวละครมีน้อย ต่างคนต่างมีเหตุผลในตัวเอง

โจร 3 คน เข้าไปบ้านลุงตาบอด เพื่อหวังปล้นเงิน เพื่อตัวเอง
ตัวนางเอก อยากพาน้องย้ายถิ่นหนีจากครอบครัว
ตัวพระเอก ด้วยความที่แอบรักนางเอก ต้องขโมยกุญแจพ่อ ไปช่วยนางเอกในการทำภารกิจ
ตัวแฟนนางเอก ด้วยความอยากได้เงิน ไม่สนว่าจะเป็นคนตาบอดหรือไม่

จะมีอยู่ตอนที่คุยในรถ ที่ทำให้เห็นว่า โจร รู้สึกผิดในการกระทำ
แต่ด้วยเหตุความเห็นแก่ตัว อยู่เหนือศีลธรรม เลยบุกเข้าไปและพบกับคนที่มีปมอีกหนึ่งคน
คนลุงตาบอด ที่คนภายนอกคิดว่า อ่อนแอ แต่กลับมีประสาทสัมผัสดี
และไหวพริบ ทักษะในการต่อสู้ เนื่องจากเคยเป็นทหารมาก่อน
แล้วก็ต้องไปเจอ ปมของลุงตาบอด ความเห็นแก่ตัวของลุง
ที่ซ่อนสาวคนหนึ่งที่ขับรถชนลูกสาวตัวเองเสียชีวิต เหตุผลของลุงคือคนรวยไม่เคยผิด
สู้คดียังไง ก็ไม่มีทางเอาผิดได้ เลยจัดการลงโทษสะเอง
เมื่อทำให้ชีวิตหนึ่งสูญหาย ก็ต้องสร้างอีกหนึ่งชีวิตมาคืน
จับหญิงสาว มาฉีดเปิร์มเข้าทางอวัยวะเพศ แล้วรอ 9 เดือน เพื่อคลอด
ไม่ใช้วิธีข่มขืน ลุงให้เหตุผลในใจตัวเองว่า ฉันเป็นคนดี มีคุณธรรมอยู่ แต่แันต้องการความยุติธรรม
ในเมื่อกฏหมายลงโทษไม่ได้  ฉันก็จะขอจัดการเอง 

พอพลาดยิงโดนสาวคนนี้ตาย ตัวนางเอกก็ต้องมารับกรรมต่อ นางเอกเลยได้รู้เรื่องทั้งหมด
และเกลียดลุงตาบอดมาก กล่าวหาว่าโรคจิต แต่ก็ไม่ดูความผิดตัวเอง
ที่แอบเข้ามาบ้านลุงเพื่อที่จะขโมยเงิน ทำให้คนทั้ง 2 ตาย เพราะความโลภ อยากได้ของคนอื่น
ถึงแม้นางเอกจะได้เงินไป และลุงก็ไม่ได้บอกว่ามีคนร้ายอีกคนคือนางเอก
เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง ส่วนหนึ่ง แต่ดูแล้ว อาจจะมีกับไปจัดการนางเอกด้วยมือตัวเอง
เพื่อมาชดใช้ความยุติธรรมหรือไม่ ใรจะไปรู้ได้

สุดท้ายดูเรื่องนี้จบแล้ว  ทุกตัวละครเห็นแก่ตัวหมด  มีเหตุผลในตัวเอง
ไม่รู้จักคำว่าอภัย  ความอยากได้ของคนอื่น ทำให้เกิดการฆาตกรรมที่น่าเศร้า
และ คำว่าไม่ให้อภัย เกิดการทารุณคนหนึ่ง เพื่อความต้องการของตัวเอง
ความไม่ไว้ใจ  นำไปสู่ ความตาย

ลองไปหากันดูนะ เพื่อจะได้แนวคิด มุมมองที่แตกต่าง

บางครั้งมุมมองจากหนัง อาจจะทำให้เราเข้าใจมนุษย์มากขึ้น
ข้อคิดจากหนัง ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเราได้
หนังทุกเรื่อง  มีข้อคิดอยู่ในหนัง มองให้เป็น แล้วเราอาจจะหลงรักการดูหนังก็ได้

@...Miiez...@