วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สวัสดียามเช้า


อากาศยามเช้าน่าภิรมย์เสมอ
เวลาตื่นเช้า ก็ไม่ลืมที่จะเดินออกไปสูดอากาศนอกบ้าน
หยาดน้ำค้างที่คงเหลืออยู่ยามเช้า
ลมหนาวเริ่มพัดโชยมาสัมผัสกาย
ความรู้สึกช่างดีเหลือเกิน

ถ้าตื่นสายคงไม่ได้สัมผัสแบบนี้


ตื่นเช้าเวลาในชีวิตแต่ละวัน ดูเยอะขึ้นทุกที
มีเวลาให้สมองได้ รีเล็ค กับช่วงเวลาตรงหน้ามากขึ้น
ไม่ใช่การนอนพักนะ แต่เป็นการชิมลางเวลาตรงหน้าแบบไม่ต้องประวิงเวลา
ที่ให้ตัวเองได้สร้างประสบการณ์ในแต่ละวันยามเช้ามากขึ้น

ลองตื่นเช้าดูสิ แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่า เวลาในชีวิตมีมากขึ้นจริงๆ 
นั่งสมาธิ ออกกำลังกายยามเช้า รู้สึกโครตดี ก่อนจะเริ่มงาน
บาล้านซ์ชีวิต จัดสรรเวลาให้ดี  แล้วจะยิ้มให้กับทุกช่วงของชีวิต

@...Miiez...@

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เปิดโลกการเดินทาง

ทุกการเดินทาง เราได้เห็นมุมมองสิ่งใหม่ๆ อารยธรรม วัฒนธรรม
การใช้ชีวิต  วิถีชีวิตในแต่ละที่ สิ่งปลูกสร้างที่แตกต่าง
ความคิด และทัศนคติของผู้คน

บางครั้งเราก็อาจจะไม่ชอบใจนัก กับบางที่ที่เดินทางไป
แต่เชื่อเถอะว่า ทุกที่ๆเดินทาง มักมีเรื่องให้คุณได้ประทับใจเสมอ



อย่างการเดินทางครั้งล่าสุดที่ไป สิงคโปร์ 
ก่อนไปประเทศนี้ ก็มองดูว่าเป็นประเทศที่ไม่มีอะไรเท่าไหร่นัก
หลังไปกลับมาก็บอกว่าเป็นประเทศที่ไม่มีอะไร
แต่เราได้มุมมองและทัศนคติของสิงคโปร์มากขึ้น

สิงคโปร์ในมุมมองของเรา เป็นประเทศเล็กๆ แต่ช่างดูมีระเบียบสะอาด
เวลาไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน สิ่งที่เราจะสังเกตได้คือ คนเยอะยังเงียบ
และเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่  คล้ายๆกับมาเลย์เซีย
อาหารที่นี้ค่อนข้างราคาสูง  โดยส่วนตัว  ชอบของหวานที่นี้มากกว่าของคาว

สถานที่ท่องเที่ยวที่นี้ แทบทุกที่ จะรู้ได้เลยว่า
ทุกอย่างคือการประดิษฐ์และสรรคสร้างขึ้นมาจากคนทั้งหมด
คอนเซ็ปน์ที่เราตั้งให้คือ ใช้พื้นที่ที่มีอย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
และยังสามารถสร้างทุกพื้นที่ ให้มีพื้นที่ส่วนตัวได้อีก

ที่ประทับใจที่สุดของที่นี้ก็คงจะเป็น Garden by the bay
การได้นอนดูดอกไม้มีแสงสี พร้อมเสียงเพลง มันช่างน่าภิรมย์จริงๆเลยเชียวละ
ไปดูไฟมาหลายที่  แต่รู้สึกชอบที่นี้มาก เพราะได้นอนดูใต้ต้นไม้เลย
ต้องชื่นชมสิงคโปร์ ที่เวลาเค้าออกแบบ สรรสร้างที่หนึ่ง
เค้าจะมีการมองถึงการใช้งานด้วย  ไม่ว่าจะที่นั่งพัก
จะเห็นได้เลยว่า ที่นี้มีที่นั่งพักเยอะมาก  เวลาเดินททางนี้ เมื่อยๆ หาที่นั่งพักได้ตลอดเลยละ



เมืองนี้ยังให้ความสำคัญกับคนสูงอายุและคนพิการอย่างมากด้วย
เวลาเราขึ้นรถไฟฟ้า จะมีที่นั่งพิเศษ ที่แยกสำหรับคนท้อง คนแก่ คนพิการให้เลย
แล้วคนบ้านเค้าก็จะเว้นที่ไว้ ไม่นั่งนะ ต่อให้ไม่มีที่นั่ง เค้าก็จะยืนกัน
เห็นได้ถึงความเป็นระเบียบ และการปลูกจิตสำนึกลงไปนะ

เสียดายที่สิงคโปร์ อากาศร้อน ไม่ได้หนาวเย็น
อากาศคล้ายๆกับบ้านเราเลย  แต่ออกจะร้อนกว่าด้วยซ้ำนะ
ใครชอบอากาศแบบหนาวเย็น สไตส์เกาหลี คงจะไม่ชอบที่นี้ละ


ยิ่งเราได้เห็นโลกมากขึ้น เราจะเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น
ความงามมีซ่อนอยู่ ขึ้นอยู่ว่าเราจะมองสิ่งเหล่านั้นในมุมไหน
ที่ที่หนึ่ง มุมมองของแต่ละคนก็ต่างกัน
อาจจะด้วย สิ่งเดิม ประสบการณ์เก่าที่เคยผ่านพบมา
ทำให้มุมมองในแต่ละที่แตกต่างกัน ในแต่ละคน

ทุกการเดินทาง คือทุกการเรียนรู้
แค่เปิดใจมองสิ่งใหม่ๆ เราจะเห็นความงามและความหมายของแต่ละสิ่งที่ซ่อนอยู่
เดินทางเก็บประสบการณ์ต่อไป ด้วยใจเรียนรู้
แล้วเราจะพบความหมายของการเดินทางแต่ละที่มากขึ้นเรื่อยๆ
 เดินต่อไป ..... นักเดินทางตัวน้อยๆ ^^

@...Miiez...@


เอาชนะใจตน


เวลาที่เราทำงานหรือทำอะไรจริงจังสักอย่าง
เชื่อไหมว่า มารในใจเกิดขึ้นมาเสมอ 



กิเลสต่างๆที่ล่อลวงใจเราให้อยากทำอย่างอื่นมากกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ไม่ว่าจะอยากกินขนมแสนอร่อยจังเลย
อยากดูหนัง ดูซีรี่ย์สักเรื่องหนึ่ง
อยากคุยแชท เล่นเฟสบุ๊ค ให้เพลิดเพลินใจ
อยากเล่นเกมส์ให้ผ่อนคลายสมองจังเลย
อยากอะไรอีกมากมาย..... ตามแต่กิเลสจะพาไป ในขณะทำงาน

ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเกิดแพ้ใจตัวเองบ่อยๆ
คุณก็จะกลายเป็นคนที่ไร้ระเบียบวินัยในตัวเอง
แล้วสิ่งที่จะเกิดต่อมา นั่นคือการสะสมนิสัยของตัวเองเพิ่มขึ้น

ที่จะทำงานได้ไม่ถึงไหน ก็ปล่อยใจไปตามกิเลส
แล้วงานก็ไม่คืบหน้า

ไม่จำเป็นต้องบีบเวลาตัวเองให้ทำงาน
แต่แค่คิดว่าวันนี้จะทำอะไร ช่วงไหน แบ่งเวลาให้ดี
ยามพักผ่อน เพลิดเพลิน ก็พักผ่อนให้เต็มที่
ยามทำงาน ก็ตั้งใจทำด้วยความมุ่งมั่น และมานะ
ทำซ้ำๆ ให้ติดเป็นนิสัย

แล้วคุณจะเป็นคนที่แบ่งเวลาเป็น บาล้านซ์ได้
งานเดินหน้า จัดสรรเวลาให้ลงตัว
แล้วชีวิตคุณ จะมีเวลาทำอะไรได้อีกเยอะเลยเชียวละ

@...Miiez...@

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560

คุณเกิดมาบนโลกใบนี้ทำไม


คุณเคยถามตัวเองไหมว่า " คุณเกิดมาบนโลกใบนี้ทำไม "



เราเคยถามตัวเองและหาคำตอบนี้ด้วยความคิดของเราเองว่า

คนเราเกิดมาพร้อมกับบุญและกรรม
หากใครเกิดในครอบครัวที่ยากจน อาจจะมีความรู้สึกนึกคิดว่า
ทำไม ฉันไม่เกิดเป็นคนรวยแบบคนอื่น
หรือหากใครเกิดในครอบครัวที่มัปัญหาแวดล้อมในชีวิตมากมาย
ก็อาจจะเกิดคำถามกับตัวเองว่า ทำไมฉันไม่เกิดในครอบครัวที่ดีกว่านี้

บางคนอาจจะบอกว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้

ตามจริงแล้วเส้นทางที่เราเกิดมา ก็เกิดจากบุญกรรมเก่าที่เราทำในอดีตชาติที่เราสร้างสมมานั่นแล
เราสร้างกรรมเวรกับใครมาไว้ในชาติก่อนเราก็มักจะได้รับกลับ
เราเคยสร้างบุญมาไว้มากในภพก่อน ภพนี้เราก็ได้รับสิ่งที่ทำจากชาติก่อนนั้นเอง
อย่ามั่วแต่น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง
แต่จงสร้างชะตาชีวิตของตัวเองด้วยตัวเราดีกว่า

ในภพนี้ชาตินี้ ที่เราเกิดมา เราเลือกเกิดได้ใหม่ในทุกๆวัน
เราเลือกจะสร้างกรรมในแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง
เราเลือกจะผูกกรรมกับใคร ก็ขึ้นอยู่กับเราเอง
เราเลือกได้ว่าเราจะสร้างสุขหรือทุกข์ให้กับคนอื่น
เราเลือกได้ว่าจะสร้างสุขหรือทุกข์ให้กับตัวเอง
เราเลือกได้ว่าจะทำสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่ดี

ทุกอย่างเราเลือกได้ด้วยตัวเราเองในทุกๆเรื่องและทุกๆวัน
เราเลือกเกิดใหม่ได้ในทุกๆวัน
วันนี้เราอาจจะเผลอทำสิ่งที่ไม่ดี  แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เรายังสามารถสร้างสิ่งดีๆในเรื่องใหม่ได้เสมอ
เราไม่สามารถเดินกลับไปแก้ไขอดีตได้
แต่เราสามารถที่จะสร้างอนาคตจากปัจจุบันได้

เรื่องราวไม่ดีเก็บไว้เป็นบทเรียนเตือนใจ
เรื่องราวดีๆ เก็บไว้เป็นความภูมิใจเล็กๆ

แล้วเดินต่อไปอย่างระวัง กาย วาจา ใจ ของตนเอง
จงมีสติที่จะพิจารณาความคิดให้ทัน
เพราะความคิดของเรามักก่อให้เกิดการกระทำ

ฝึกที่จะรู้ทันจิตของเราเอง และฝึกที่จะหยุดความคิดที่ไม่ดี
เมื่อไหร่ที่เราคิดไม่ดี โลกก็จะเริ่มมืดมน
เมื่อไหร่ที่เราคิดดี โลกก็จะบวกและสดใส ยิ้มให้กับเรา

จงรู้จักหยุดทุกการกระทำ ที่ทำให้เกิดเรื่องไม่ดีกับคนอื่น
พูดแล้วไม่มีใครได้อะไร พูดทำไม นั่นคือพูดเพ้อเจ้อใช่ไหม
พูดแล้วอาจจะไปกระทบกับคนอื่น พูดทำไม นั่นคือการพูดส่อเสียด นินทา ว่าร้ายใช่ไหม
เมื่อไหร่ที่เราพูดถึงคนอื่นไม่ดี เรากำลังไม่ให้เกียรติตัวเราเองอยู่
เมื่อไหร่ที่เราพูดเพ้อเจ้อ เรากำลังพูดเรื่อยเปื่อยอยู่
ถ้าเราหลงไหลในการพูดแบบไหน นั่นก็จะติดเป็นนิสัยให้เรากลายเป็นคนพูดแบบนั้น

เราไม่ชอบการกระทำแบบไหน เราก็ไม่ควรกระทำแบบนั้นให้คนอื่น
เราชอบการกระทำแบบไหน ก็ควรที่ดูว่าคนอื่นชอบการกระทำแบบที่เราชอบหรือไม่

คนเราเกิดมาต่างคน ต่างความคิด ต่างการควบคุม
ไม่ต้องสนใจที่ความคิดใครอื่น เพราะเราไม่สามารถบังคับความคิดคนอื่นได้
แต่จงใส่ใจความคิดของตน ระวังจิตเราให้ดี ที่จะไม่พลาดไปสร้างประสบการณ์ไม่ดีกับใครก็พอแล้ว

อดีตที่ผ่าน คือประสบการณ์ที่เราพบเจอ
อนาคตที่คาดหวัง คือสิ่งที่เราอยากจะเป็น
อย่าปล่อยให้เรื่องอดีตต้องมาทำร้ายปัจจุบัน
อย่าปล่อยให้เรื่องอนาคตต้องมาทำร้ายปัจจุบัน
จงใช้อดีตเป็นบทเรียนสอนสั่ง
จงใช้อนาคตเป็นแรงผลักดัน
และจงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ทำให้ดีที่สุด ในจุดที่ยืนก็พอแล้ว
อนาคตจะดีได้ ก็เริ่มจากการลงมือทำในปัจจุบัน
อยากมีอนาคตแบบไหน ก็แค่เริ่มสร้างในวันนี้
ชีวิตเป็นของคุณ คุณออกแบบชีวิตคุณเองได้
อยากให้ชีวิตเป็นแบบไหน คุณเลือกได้
เป็นกำลังใจให้กับทุกคน....เดินต่อไป

@...Miiez...@

วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2560

กระวนกระวายใจ


คุณเคยกระวนกระวายใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือไม่



ความรู้สึกกระวนกระวายใจ มันเป็นความรู้สึก ร้อนลุ่ม มันสุ่มอยู่ในอก
คิดวิตกกังวลในเรื่องต่างๆมากมาย
แม้บางเรื่องยังไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ จิตใจก็มีความเป็นกังวลไปสะแล้ว

คุณรู้หรือไม่ เวลาที่ จิตใจกระวนกระวายนั่น คือช่วงเวลาหนึ่งที่เราไม่มีสติครบสมบูรณ์

เราคิดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ไม่ควรไปกังวลกับสิ่งที่มาไม่ถึง
แต่จงมีสติและรับมือกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ไไม่ควรไปกังวลมากนัก

เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าจิตตัวเองไม่ปกติ
สิ่งที่ควรทำอันดับแรกคือการตั้งสติ

ทำให้จิตใจนิ่งและกลับมาเป็นตัวเองให้ได้ ให้จิตเราอยู่กับปัจจุบัน

บางคนสงสัยว่า การตั้งสตินี้ เราจะต้องอยู่นิ่งๆใช่ไหม
ตามจริงแล้ว การตั้งสติของคนอาจจะใช้วิธีแตกต่างกันก็ได้
บางคนอยู่นิ่งๆๆ ท่องพุธโธ ก็กลับมา
บางคนอาจจะต้องทำให้ร่างกายตื่นตัวบ้าง อย่างเช่น ออกกำลังกายเล็กๆน้อย ให้กระตุ้นหัวใจ
กระตุ้นการทำงานของร่างกาย จะได้มีสติ
บางคนก็นับเลขเอา
บางคนก็เพ่งจิต
บางคนก็เขียนหนังสือ

ใครถนัดอะไร แบบไหน ก็ทำไป แค่ให้จิตกับมาอยู่กับปัจจุบันก็พอ

คาดการณ์อนาคตได้ แต่อย่ากังวล เตรียมพร้อมรับมือก็พอ

@...Miiez...@

วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560

จงศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง


จงศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง



คุณเคยไม่มั่นใจในตัวเองไหม ว่าสิ่งที่คุณทำจะดีหรือไม่
คุณเคยไม่มั่นใจในตัวเองไหม  ว่าสิ่งที่คุณพูดจะดีหรือไม่
คุณเคยไม่มั่นใจในตัวเองไหม  ว่าสิ่งที่คุณคิดจะดีหรือไม่

ถ้าพื้นหลักที่คุณทำ มันไม่ได้ทำร้ายใคร
สิ่งที่คุณคิด เกิดจากการเริ่มต้นที่จะให้
เริ่มที่จะสร้างสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่นและตัวคุณเอง
ก็จงเชื่อในตัวคุณเอง

สิ่งแรกที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองได้
เริ่มจากการประเมินในสิ่งที่เรากำลังจะทำในแต่ละอย่าง

ยกตัวอย่างเช่น
คุณกำลังจะทำธุรกิจตัวหนึ่งขึ้นมา
ผู้รับผลประโยชน์จากการทำธุรกิจของคุณคือใครบ้าง
ลูกค้าของคุณ ที่จะได้รับบริการและสินค้าของคุณ
ตัวคุณ ที่ได้เห็นลูกค้าได้ใช้บริการหรือสินค้าของคุณ
หลังจากคุณเชื่อในสิ่งที่คุณกำลังจะทำว่าดี

สิ่งต่อมาที่จะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้นคือ ข้อมูลและความรู้
คุณต้องรู้ว่า คุณกำลังขาดอะไรจากการทำสิ่งนี้ ก็เติมข้อมูลและความรู้ส่วนนั้นให้แน่น
ไม่ว่าจะจากการอ่าน ศึกษาสินค้า เพื่อให้คุณได้รู้จริงในสินค้าของคุณเอง
เวลาลูกค้าถามคำถามอะไร คุณมีข้อมูลที่ตอบได้หมดได้

หลังจากนั้น ก็คือการลงมือทำและเชื่อ ศรัทธาในตัวคุณเองให้ได้
เรียนรู้ทุกอย่างจากความผิดพลาด
ผิดคือครูที่ทำให้เราแกร่งขึ้น
ล้มเหลวคือหนทางไปสู่ความสำเร็จในภายภาคหน้า

อย่ากลัวที่จะล้ม แต่ต้องกล้าที่ยืนขึ้นอีกครั้งในวันที่คุณล้ม
ศรัทธาในตัวคุณเองให้ได้  เพราะคนที่อยู่กับคุณตลอดทุกที่ ทุกเวลา คือตัวคุณเอง
สู้ๆ นักเดินทางทุกคน

@...Miiez...@




วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

20 ข้อคิดจากขุนเขา


เป็นบทความที่อ่านแล้วชอบมาก 

20 ข้อคิดจากขุนเขา: ด้านธรรมะ



1. ในแต่ละปี...
จงทำชีวิตให้ "ดีขึ้น"
เพราะในแต่ละวัน...
ชีวิตเรากำลัง "สั้นลง"

2. การ "อยู่กับปัจจุบัน"
ไม่ใช่การ "หยุดทำ" ในเรื่องสำคัญ
แต่มันคือการ "หยุดทุกข์" ไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ

3. อารมณ์ "ลบ" ทุกชนิด จะทำร้ายเรา
ก่อนที่จะทำร้ายคนอื่นเสมอ...
ส่วนอารมณ์ "บวก" ทุกชนิด จะให้พรเรา
ก่อนที่จะให้พรคนอื่นเสมอ เช่นกัน...

4. วิจารณ์คนอื่นทุกวัน... ใจต่ำลงทุกวัน
วิจัยตัวเองทุกวัน... ใจสูงขึ้นทุกวัน

5. ถ้าไม่มีคนมาทำให้คุณโกรธ
...คุณจะไม่รู้เลยว่าระดับจิตคุณอยู่ตรงไหน
ถ้าไม่มีใครมาทำให้คุณทุกข์ใจ
...คุณจะไม่รู้เลยว่าตัวเองยังมีอะไรต้องพัฒนา

6. ไม่ว่า "ภายนอก" เราจะอยู่กับคนมากแค่ไหน
แต่ "ภายใน" เรายังอยู่ตัวคนเดียวเสมอ
จงหาวิธี "รักตัวเอง" ให้เจอ
เพราะไม่มีใครในโลกนี้ที่จะอยู่กับเธอ
สม่ำเสมอเท่ากับ "ตัวเธอเอง"

7. การฝึกจิตและพัฒนาตัวเอง
อาจไม่ได้ทำให้เรา "พ้นทุกข์ตลอดกาล"
แต่มันจะทำให้เรา "เป็นทุกข์นานน้อยลง"

8. การ "แก้กรรม" ที่ดีที่สุด
คือการแก้ไข "ความคิด" "คำพูด"
และ "การกระทำ" ของตัวเอง

9. ความดีเล็กๆ ที่ทำไปนานๆ
สุดท้ายอาจสร้าง "ปาฏิหาริย์" ให้ชีวิต

10. "ไป" ได้เร็วแค่ไหน
ก็ถึงเร็วเท่านั้น...
"ปล่อย" ได้เร็วแค่ไหน
ก็สุขเร็วเท่านั้น

11. จำไว้ว่า "ความทุกข์" และ "ความเจ็บปวด" ทั้งมวล
ไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา... เพื่อมอบ "คำสาป"
แต่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา... เพื่อมอบ "คำสอน"

12. ก้าวแรกของการใช้ชีวิตอย่าง "ผู้ตื่น"
คือการหยุดยุ่งวุ่นวายเรื่อง "คนอื่น"
แล้วหันกลับมาวิเคราะห์ใจ "ตัวเอง"

13. ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิต ไม่ได้เกิดจาก
"สิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ"
แต่มันเกิดจาก
"สิ่งที่คุณคิด ว่าคนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ"

14. ต้องขอบคุณคนที่ทำ "ไม่ดี"
ที่ช่วยเป็นตัวอย่างที่ "ดี"
ว่าอะไร "ไม่ควรทำ"

15. ไม่ว่าจะทุกข์หนักหนาสาหัสสักแค่ไหน
ทางออกก็ไม่เคยอยู่ไกล
ไปกว่า "ใจ" ของเราเอง...

16. เกลียดเขา “เราทุกข์”
เมตตาเขา “เราสุขเอง”

17. คนเราฝึกเดินจนเก่งได้ ฉันใด
ก็สามารถฝึกใจจนเป็นสุขได้ ฉันนั้น...

18. "ความตาย" เป็นเรื่องธรรมดา
แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า
เป็นเรื่อง "อัศจรรย์"

19. โปรดสังเกตดูให้ดี...
ว่าสิ่งที่ทำให้เราทุกข์
บ่อยที่สุดในแต่ละวัน
ไม่ใช่ “พฤติกรรม” ของคนอื่น
แต่คือ “ความคิด” ของเราเอง

20. อย่าถือโทษ โกรธคน ไม่คู่ควร
อย่าตีตรวน ตนไว้ กับอดีต
ชะตาเรา อย่าให้ใคร มาเขียนขีด
อย่าเอาคำ ที่เหมือนมีด มากรีดใจ

(แถมให้อีกหนึ่งอัน!)

21. หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะมี "เงิน"
วันไหนเงินหมด คุณค่าคุณก็หมด
หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะ "หน้าตา" ดี
วันไหนคุณแก่ลงจนหน้าตาไม่ดี คุณค่าคุณก็หมด
แต่ตราบใดที่คุณรู้ว่าตัวเองมีค่า เพราะเป็น "คนดี"
ตราบใดที่คุณยังมีความดี คุณก็จะ "มีคุณค่า" ได้
ตลอดไป...

-ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร-

วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Road Map of Life


คุณเคยค้นพบอะไรสักอย่างไหม

แล้วรู้สึกว่าตื่นเต้นกับความคิดตัวเอง

นั่นเพราะเรากำลังหลงไหลในสิ่งที่เราคิดได้อยู่



เรากำลังมีความสุขและตื่นเต้นกับสิ่งนั่น
อย่าปล่อยให้ความคิดที่เราตื่นเต้นหลงไหล
หมดไปกับความคิด

แต่จงนำความคิดเหล่านั้นมาสู่กระบวนการลงมือทำ
เพื่อพิสูจน์ในความคิดเรา ว่าผลจะออกมาได้แบบที่คิดหรือเปล่า
นั่นคือการทดสอบความคิดเรา

ทฤษฏีที่ไม่มีการปฏิบัติ ต่อให้เจ๋งแค่ไหน ก็เป็นได้แค่ทฤษฏี
แต่ถ้านำทฤษฎีที่เจ๋ง มาปฏิบัติและทำให้สำเร็จ
นั่นละ คือผลงานที่เจ๋ง ที่มันสร้างขึ้นจากทฤษฎีและได้การพิสูจน์ว่า ทฤษฎีอันนี้ใช้ได้จริง

อย่าปล่อยให้ทฤษฎีที่คุณคิดค้น เป็นเพืยงแค่ทฤษฎีละ
พิสูจน์มันดูสิ ด้วยการลงมือทำ อย่างคนที่หลงไหล
แล้วคุณจะรู้สึกค้นพบความตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม

ต่อยอดจากสิ่งที่คิดค้นได้ ด้วยการพัฒนาต่อ จากทฤษฎีที่ลงมือทำแล้ว
คุณอาจจะพบทฤษฎีใหม่ ที่เป็น ทฤษฎีที่แท้จริงก็ได้

ไม่ต้องมากมาย คิด ลงมือทำ วิเคราะห์ คิด ลงมือทำ
สรุปแล้ว แค่คิด ลงมือทำ และพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ
แค่นั้นเองแหละ....Road Map of Life

เดินต่อไป นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@