วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

บังเอิญ




การเจอกับใครบางคนในชีวิต เชื่อไหมว่า ไม่ใช่เหตุบังเอิญ
คนนับล้านคนบนโลก เดินสวนกันมา แต่ไม่ได้รู้จัก

แต่ทำไมกับบางคนถึงได้รู้จัก มักจี่ด้วย
นั่นล่ะ คือสิ่งที่เรียกว่า โชคชะตา นำพามาให้เจอ

แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นเรื่องของกรรมลิขิต ต่อจากนั้น
เหตุใด บางคนยิ่งพูดคุย ยิ่งรู้สึกอยากรู้จักเพิ่ม
และเหตุใด บางคน ยิ่งคุยยิ่งไม่อยากรู้จักต่อ

เหตุเพราะจิตของเรา ที่ปรุงแต่งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
แล้วโลกจะผลักสิ่งที่เราไม่ชอบออกจากตัว
ดึงสิ่งที่เราคิดว่าชอบเข้ามาหา

เลยไม่แปลกใจว่า คนที่เราคบหา อย่างน้อยต้องมีอะไรบางอย่าง
ที่เรานึกชอบสิ่งใดในตัวคนนั้น

เรามักจะเคยได้อ่าน ได้ยิน คำพูดหนึ่งว่า
อยากมองเห็นตัวเอง จงมองเพื่อนที่คุณเลือกคบ
เพราะนั่นคือ บางนิสัยที่มีในตัวเรา

หลายต่อหลายครั้ง ที่เราได้เจอใครบางคนในความรู้สึก บังเอิญจัง
แล้วความรู้สึกต่อจากนั้น คือการสานต่อความรู้สึกออกไป

ขยายเรื่องเล่า รับฟัง พูดคุย ทำความรู้จัก
และมักจะเจอเรื่องแปลกบ่อยครั้ง
คือ ไม่น่าเชื่อเลย ที่ได้เจอกัน
จึงได้รู้จักตัวตนกันเพิ่ม  ความบังเอิญที่บังเอิญกว่า
คือ  มีสิ่งที่ชอบ และนิสัยที่เป็นคล้ายๆกันอีก

แล้วเชื่อในโชคชะตาไหม  ว่า ช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก
เข้าใจคำว่า โลกจัดสรร ก็วันนี้ล่ะ

บางครั้งเราก็ได้รับพลัง จากใครบางคนที่พูดคุยกันเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้นะ

หากเจอเพื่อนที่ทำให้คุณรับรู้ถึงพลังบางอย่างในตัวเอง
จงเปิดใจ รับใครสักคนมาเป็นเพื่อนคุณสะ

แล้วชีวิตจะมีเรื่องราวที่ คุณรู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง ที่คุณไม่รู้ว่ามันคืออะไร
รู้แต่ว่า นั่นเป็นพลังงานที่ดี ที่จะขับเคลื่อนชีวิตเราได้เพิ่มอีกพลัง


วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ปม




มนุษย์ทุกคน แอบซ่อน ความรู้สึกบางอย่าง
ที่เป็มปมความรู้สึก เก็บซ่อนมันไว้อยู่ภายในใจเสมอ
ขึ้นอยู่กับว่า ปมนั้น เป็นเรื่องของอะไร
แล้วสิ่งที่แสดงออกมาคือความคิดที่มาจากปมที่ซ่อนไว้ในใจนั่นเอง

บางคนใช้วิธีแสดงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกของปมในใจ
เช่นแสดงว่าตนเองเป็นคนเข้มแข็ง เพราะปมในใจแล้ว ไม่อยากเป็นคนอ่อนแอ เหมือน อย่างที่เคยเห็นจากใคร หรือ เคยโดนกระทำแบบไหน

บางคนใช้วิธีกดปมตัวเองอยู่ในใจ ในสิ่งที่โดนกระทำ
เพราะไม่อยากให้คนอื่นได้รับการกระทำความรู้สึกแบบที่ตัวเองเคยโดน
จะใช้วิธีการซ่อนปมของตัวเอง โดยการเก็บความรู้สึก จนคนภายนอกอาจจะเผลอมองว่า
คนกลุ่มนี้ กลายเป็นคนเก็บกด และเผลอที่จะไปกระทำบางสิ่ง ที่กระทบกับปมในใจของคนกลุ่มนี้

บางคนใช้วิธีดึงปมในใจไว้เป็นพลัง เพื่อวันนั้นจะเอาปมในใจออกมาแสดง
คนกลุ่มนี้จะใช้ ปมเป็นแรงผลักดัน แสดงออกว่า ไม่เคยกลัวปมของตัวเอง
และไม่ต้องการให้ปมเป็น จุดอ่อนของตัวเอง  แต่ลึกๆปมในใจก็ไม่ได้หายไป
แต่ยังมีปมที่ซ่อนลึกในปม คือความกลัว

การแสดงออกของคน บางครั้งมันก็อาจจะสะท้อนภาพลึกในใจของคน
บางครั้งที่คุณอาจจะไม่รู้เลยว่า ทำไมคนนั้นถึงกระทำแบบนั้น
ทำไมคนนี้ถึงกระทำแบบนี้

บางอย่างแม้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบการกระทำของใครบางคน
แต่สิ่งที่คุณไม่รู้เลยคือ คุณไม่รู้ว่าเค้าผ่านอะไรมา
เค้าซ่อนปมความรู้สึกในใจอะไรอยู่

สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ เพียงแค่มองดูอย่างเมตตา
แล้วคุณจะเข้าใจ ถึงเหตุผลบางสิ่งที่อยู่ในใจเค้าได้

โลกใบนี้ ยังคงวนเวียน ตามกิเลสเสมอ
เพราะตัวเราก็เกิดจากกิเลส

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เคยไหม


เคยไหม ที่ตัวเราจะต้องไปอยู่ในสถานการณ์ที่เราไม่อยากเข้าไปอยู่
เราได้ยินเสียง ได้ฟังเรื่องราวที่เราไม่อยากฟัง
ยิ่งฟัง ยิ่งเกิดคำถามในหัว หรือ ความคิดในหัวที่ไม่ดี
และก็ไม่อยาก แสดงความคิดเห็นอะไรออกไป
เพราะตัวเราเองที่ไม่ชอบความขัดแย้ง และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
คนเหล่านั้นจะสามารถรับฟังสิ่งที่เป็นความคิดเห็นที่ต่างจากตนคิดได้หรือไม่



สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ ปิดหู ปิดเสียงรบกวน
เพราะบางครั้ง สิ่งที่ดีกว่า คือการไม่ต้องรับรู้ เรื่องราวที่ ไม่จำเป็นต้องรู้
ให้สมองมีพื้นที่ว่าง ดีกว่าเอาเรื่องราวหรือสิ่งที่กวนใจมาแบกรับให้รกสมอง

คำว่าปล่อยวาง จะมากับสิ่งที่เราต้องรับรู้ และ แบกมันไว้

แล้วกับสิ่งที่เราไม่รู้ เราก็ไม่จำเป็นต้องไปแบกรับมัน
เพราะเราเลือกได้ ว่าสิ่งไหน ควรรับฟัง ไม่ควรรับฟัง
เรื่องไหน ควรเอามาใส่ใจ เรื่องไหน ไม่ควรเอามาใส่ใจ

สถานการณ์ บางครั้ง ก็สอนให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
ว่าเรานั้นจะสามารถอ่อนไหวไปกับสิ่งรอบข้างหรือไม่

อารมณ์เราจะ เย็นพอ แล้วคุมจิตใจตัวเราได้ดีแค่ไหน
เราจะรู้จักตัวเองดีพอ หรือ รู้จักคนอื่นดีพอ

สุดท้ายแล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปรับรู้เรื่องราวมากมาย
แค่รู้ในเรื่องที่เราควรจะรู้ และ รู้ตัวเองในจุดที่ยืนอยู่ก็พอแล้ว



วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เรื่องเล่า



เมื่อกาลเวลาผ่านไป อายุเรามากขึ้น
ความคิดเราโตขึ้น ภาพที่เรามองออกไป ที่เดิม แต่ไม่เหมือนเดิม

เห็นสิ่งที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย
เห็นวิธีการหาเงินในวิธีที่ต่างจากเดิม
เห็นวิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป

แต่สิ่งที่เห็นมากกว่านั้นคือ
จิตมนุษย์ ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ยังคงมี ความรัก โลภ โกรธ หลง เป็นตัวนำในชีวิต

โลกใบนี้ก็ยังคงหมุนไปด้วยตัวนำของกิเลส
กิเลสดี กิเลสไม่ดี ก็จะนำพาไปตามแรงศรัทธา
ตามความเชื่อของเรา

จุดมุ่งหมาย ความเป็นคนของแต่ละบุคคล
จะเกิดจากสิ่งที่คิด และเชื่อเป็นตัวนำ

สุดท้ายแล้ว มนุษย์ ก็ยังคงเดินตามวงเวียนชีวิต
ที่วันหนึ่ง อายุไขของแต่ละคนก็จะหมดลง
สิ่งที่เหลืออยู่ ก็คือเรื่องเล่าของคนหนึ่่งคน

วันพรุ่งนี้ของแต่ละคน ไม่รู้เลยว่าจะมีอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี
จะมีกี่เรื่องที่ไม่เป็นใจจะต้องเจอ
จะมีเรื่องราวดีๆอีกกี่ครั้งที่ได้สุขล้นหัวเราะยิ้มร่า
จะมีมิตรภาพที่มาเติมแต่งสร้างเรื่องราวในชีวิตอีกกี่คน

ไม่มีใครรู้อนาคตตัวเองล่วงหน้าว่าจะเจอกับอะไร
ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน

อยู่บนโลกนี้แบบมีความสุขง่ายๆ
แค่ไม่คาดหวังกับสิ่งใดบนโลกใบนี้ มองทุกอย่างตามความเป็นจริง
แล้วเดินไปข้างหน้าแบบไม่หยุด ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ตาม