วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เวลากับเงินตรา

สิ่งที่สำคัญมากกว่าเงินตรา คือ "เวลา"
เราไม่รู้หรอกว่า เวลาในอนาคตข้างหน้าของเราจะเหลือเท่าไหร่
เวลาบนโลกใบนี้ ที่จะให้เราสร้างสิ่งดีๆ มีอีกกี่วินาที กี่วัน กี่เดือน และกี่ปี



แต่สิ่งที่เรารู้คือ ปัจจุบันที่เราเป็นอยู่
ปัจจุบันที่เราลงมือทำ
ปัจจุบันในเส้นทางที่เราเลือกเดิน
นั่นละคือสิ่งที่เรารู้และทำมันได้

อดีตอาจจะมีเรื่องราวมากมายที่เราเดินผ่าน
มีหลายสิ่งให้เราได้จดจำ ทั้งเรื่องดีและไม่ดี

ทุกทางเดินที่ผ่าน คือทุกก้าวแห่งการเรียนรู้
ยิ่งเราได้เดินมาบนหนทางบากบั่นมากเท่าไหร่
เราก็จะได้พบหนทางแปลกใหม่มากขึ้น
ประสบการณ์ที่โชกโชนขึ้นอยู่กับเราลงมือทำมากแค่ไหน

อะไรที่ไม่เคยเจอ ไม่ใช่ว่าจะไม่มี
อะไรที่ไม่เคยรู้  ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้
อะไรที่ไม่เคยมี ไม่ใช่ว่าจะไม่มี
อะไรที่ไม่เคยเป็น ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ 

ทุกอย่างอยู่ที่เราคิดและลงมือทำ
เราเลือกได้ในทุกหนทางที่เราเดิน
เราเลือกได้ในชีวิตที่เราอยากจะเป็น

เราสามารถสร้างทุกอย่างได้ ขึ้นอยู่กับว่า
เรามีความพยายามมากพอแค่ไหนตั้งหากละ


อย่าใช้เวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่า
จงใช้เวลาให้คุ้มค่าในทุกช่วงเวลาของชีวิต

เวลาทำงาน จงตั้งใจศึกษา ลงมือทำ พัฒนา
เวลาไปเที่ยว จงปล่อยสมองให้โล่ง เพื่อผ่อนคลาย
เวลากิน จงมีความสุขกับการลิ้มรสชาติอาหาร ใช่กังวลในเรื่องใด
เวลานอน จงหลับไหล ให้ร่างกายได้พักผ่อน
เวลาคิด จงคิดให้ลึกในรอบด้าน

อย่าใช้ทั้งชีวิตเพื่อทำงาน
จนลืมไปว่าชีวิตมีมากกว่างานที่อยู่เบื้องหน้า
ทำงานเพื่อสร้างชีวิตดีกว่ามีชีวิตเพื่อทำงาน

อย่ารอให้มีบ้านหลังใหญ่ถึงจะสร้างความอบอุ่น
อย่ารอให้มีรถแสนแพงถึงจะพาคนในครอบครัวไปเที่ยว
อย่ารอให้มีเงินมากมายถึงจะกลับไปดูแลพ่อแม่
อย่ารอให้มีทุกสิ่งแล้วถึงจะให้ผู้อื่นเป็น
อย่ารอให้มีเวลาถึงจะสร้างความสุขกับคนที่คุณรัก 

เวลาหมุนเดินไปข้างหน้า
ไม่เคยหยุดหมุน  ไม่เคยถอยหลังเดิน ไม่เคยรอใคร

ครอบครัว คนที่คุณรัก อย่าละเลย
เพราะเราไม่รู้เลยว่าใครจะจากไปก่อนกัน
เวลามีค่า แบ่งเวลาให้เป็น ออกแบบชีวิตให้ดี
ด้วยวิถีที่เป็นคุณแล้วสุขใจ แค่นั้นพอ

เดินต่อไป.......นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@


วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

3 สิ่ง ก่อให้เกิดการโฟกัสได้นาน


การที่เราจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งนานๆได้
รู้ไหมว่ามันเกิดจากอะไรบ้าง
มีความสงสัย มีความสนใจ มีความอยากทำ
3 สิ่งเกิดขึ้นพร้อมกัน กลายเป็นความกระหาย อยากเรียนรู้ในสิ่งนั้น



พอเราเกิดความสงสัย เราจะตั้งคำถามในใจ
และจะเกิดความอยากรู้ในสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา

พอเรามีความสนใจเราจะใฝ่หาคำตอบ
ไม่ได้สนใจสิ่งใดรอบข้างมากนัก
แล้วจะรู้สึกสนุกในการเรียนรู้ค้นหาสิ่งต่างๆสะด้วยนะ

พอเรามีความอยากทำเราจะศึกษาค้นคว้า
มีความกระตือรือร้นและคิดอะไรกับสิ่งนั้นได้ตลอดเวลา
แม้บางครั้งภาพที่มองลงมายังเป็นสิ่งนั้นเลย

พอเกิดขึ้นทีเดียวพร้อมกัน 3 อย่าง
สรุปเป็นยังไงหรอ เรียกง่ายๆ หมกหมุ่นเลยละ
เพราะทั้งสนุกในการค้นหา มีความอยากรู้อยากเห็น
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งนั้นเพื่อเกิดการศึกษาต่อเนื่อง
เลยมีการพัฒนาศักยภาพในด้านนั้นเองโดยอัตโนมัติ

ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ยังไม่รู้สึกง่วงเลยละ
ไม่เชื่อลองสังเกตุเวลาเราทำงานได้แบบตื่นตัวดูสิ
มี 3 อย่างอยู่ในขณะจิตตอนนั้นจริงๆนะ
เพราะเราจะอยากทดลองทำมันดูยังไงละ

อิอิ .......สนุกกับการเดินทางต่อไปนะ  นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@

วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

คนเรามักทำตามสิ่งที่คิดเสมอ





คนเรามักทำตามสิ่งที่คิดเสมอ
ความคิดจึงเป็นหนึ่งสิ่งที่เราต้องพัฒนา
แต่ก็อย่าคิดให้มากเกินจนไม่ลงมือทำ



สร้างความคิดให้มองเห็นเส้นทางที่เราจะก้าวเดิน
มองอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้าให้ออกว่ามีจุดไหนบ้าง
มองเครื่องมือทั้งหลายให้เห็นถึงหน้าที่แท้จริงของมันให้เจอ
มองตัวเราให้ออกว่าตัวเราทำสิ่งไหนได้ดี สิ่งไหนไม่ดี
แล้วก็นำทุกสิ่งมาประมวลผลตรงหน้า

เพื่อจะสร้างหนทางและผลลัพท์ออกมาให้ได้
ถ้าเราไม่มีทางเดินที่ชัด เราจะเดินทางได้อย่างไร
ถ้าเราไม่รู้ว่าเราจะเดินไปทางไหน เราจะเดินทางได้อย่างไร

เราต้องฝึกการคิดนอกกรอบให้เป็น
ฝึกการมองให้ขาดในทุกด้านๆให้ได้
ไม่งั้นเราจะติดหล่มในที่ใดที่หนึ่ง

และการที่เราฝึกคิด ฝึกเข้าใจตน เพื่อที่เราจะไม่ติดในตัวเราด้วย
ฝึกคิดให้เป็น ฝึกมองภาพให้เห็น ฝึกเข้าใจโลก
และที่สำคัญสุดคือการลงสนามประลอง
นั่นคือการฝึกการลงมือทำนั่นเอง

ลงมือทำ แล้วฝึกคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหาทุกอย่างที่เจอ
แล้วเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมด

แค่คิดเป็น ชีวิตก็เปลี่ยนตามสิ่งที่เราคิดแล้วละ

เดินต่อไป.....นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@

วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

อย่าสร้างสายน้ำไหลมาเพียงสายเดียว

อย่าสร้างสายน้ำไหลมาเพียงสายเดียว
อย่าสร้างสายน้ำไหลออกมากเกินตัว



ในบางครั้งเราทำงานได้เงินจากสิ่งหนึ่งจนเฟื่องฟู
เราอาจจะไม่ได้คิดว่า ที่ทำอยู่จะอีกนานแค่ไหน

หลายธุรกิจประสบความสำเร็จ
และต้องปิดตัวในกาลต่อมา
มีธุรกิจใหม่มาแทนที่คนสำเร็จเก่า

ถ้าจะให้เห็นภาพชัด น่าจะเห็นได้จากธุรกิจเทคโนโลยี
ไม่ว่าจะเป็น ยุคเฟื่องฟูของ โนเกีย โกดักส์ hi5
และยังมีธุรกิจอื่นอีกมากมาย

โลกปรับเปลี่ยนเสมอไปตามยุคสมัย
โลกในภายภาคหน้าคืออะไร เราไม่รู้หรอก
สิ่งที่เรารู้คือเราต้องปรับตัวให้ทันทุกยุค

เราอยู่ในโลกของการตลาด
สิ่งที่ได้เห็นและพบเจอมาตลอดคือ
การปรับเปลี่ยนในพฤติกรรมมนุษย์
วิถีของชีวิตมนุษย์ปรับเปลี่ยนไป

โลกที่แคบลง โอกาสที่มากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น
วิถีมนุษย์เปลี่ยน การทำเงินก็จะเปลี่ยน
สิ่งที่ต้องตามให้ทันคือตามพฤติกรรมมนุษย์ให้ทัน

วิถีเดิมไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะ
ยังคงทำได้อยู่ แต่ก็ควรปรับเปลี่ยนเพิ่มช่องทางให้ทัน
ช่องทางมีเกิดใหม่เสมอ

ทุกวันนี้เห็นช่องทางใหม่เกิดขึ้นมากมาย
ให้เล่าก็คงยาวแน่ๆ แต่สุดท้ายแล้ว
ไม่ใช่ว่าเราจะต้องทำทุกช่องทาง
แต่เอาดีสักช่องทางแล้วขยายช่องทางเพิ่มดีกว่านะ

ถ้าสิ่งหนึ่งเราทำยังไม่ดี
แล้วเราไปทำหลายสิ่งเพิ่มพร้อมกัน

ถ้าบริหารจัดการได้ก็ไปได้รุ่ง
ถ้าบริหารจัดการไม่ได้ก็ดิ่งลงเหวได้เลยละ

ทำสักอย่างให้ดี เข้าใจในสิ่งนั้นแล้ว
หาคนมาทำแทนที่เรา
ขยายช่องทางเพิ่ม

ทั้งช่องทางการตลาด ขยายรายได้ต่อก็ตามแต่ชอบ
หารายได้ได้มาก ก็ควรหาวิธีต่อยอดเงินเพิ่ม

วันที่มีให้คิดถึงวันที่ไม่มีไว้ด้วยนะ
เพื่อจะได้ไม่ทำอะไรเกินตัวมากนะ และรู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีนะ

อย่าเป็นคนใช้อะไรเกินตัว
และอย่าเป็นคนทำอะไรโดยคิดถึงเงินในภายภาคหน้าเพียงอย่างเดียว

เราไม่มีทางรู้อนาคตและภายภาคหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่เรารู้ปัจจุบันที่เราทำและเป็นอยู่นั่นแหละ

เดินต่อไป.....นักเดินทางตัวน้อยๆ
 
@...Miiez...@

อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกข์

อะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกข์



ถ้ามองแบบตามจริง ทุกข์จากอดีตและอนาคต
แต่ถ้ามองในเรื่องแบบเชิงที่หลายคนเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ความทุกข์มนุษย์ จะแบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ๆ ประมาณนี้

ทุกข์จากความคิดของตัวเองทำร้ายตัวเอง
ทุกข์จากความคิดของคนอื่นที่มองมายังตน
ทุกข์จากความคาดหวังในใจตัวเอง
ทุกข์จากการแบกความคาดหวังของคนอื่น
ทุกข์จากความอยากได้อยากมีอยากเป็น
ทุกข์จากการยึดติดกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
ทุกข์จากสิ่งที่เคยมีเคยเป็น
ทุกข์จากการสูญเสียสิ่งที่เป็นที่รัก

สุดท้ายมองตามจริง หลุดจากทุกข์ได้ แค่อยู่กับปัจจุบัน
และทำปัจจุบันให้ดี แบบไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน

แค่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แล้วทำให้ดีที่สุด
แต่ด้วยความซับซ้อนในความคิดมนุษย์ ไม่ได้คิดเช่นนั้น

เอาทุกสิ่งที่ผ่านการกระทำ หรือบางครั้งแค่ผ่านตา
มาคิดซ้อนทับให้ปวดหัววุ่นวาย จนลืมการมองตามความเป็นจริง

ทำให้สิ่งที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน กลายเป็นเห็นภาพอื่นได้
บางอย่างดีอยู่แล้ว ก็ไปเอาอดีตที่ไม่ดีมาซ้ำปัจจุบัน

แล้วเอาความกลัวอดีตซ้ำรอย มาซ้ำทับอีก
นั่นละ ความทุกข์มนุษย์ละ ทุกข์จากสิ่งที่ตนคิดทั้งนั้นเลย

หลุดได้แค่คิดเป็น ก้าวเดินได้แบบไม่ทุกข์ แค่เปลี่ยนวิธีคิดนั่นเอง
สุขทุกข์เป็นของคู่โลก  เข้าใจสุขทุกข์
เราก็จะปล่อยวางได้ทุกสรรพสิ่งละ


เดินต่อไปนะ....นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@

วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สิ่งสะท้อนจากความคิดคือการกระทำ



เสียงดังกึกก้องในความคิด
สิ่งสะท้อนจากความคิดคือการกระทำ
สิ่งที่จะหยุดความคิดได้คือสติ



หลายต่อหลายครั้งที่ความคิดโลดแล่นไปไกลโข
หลายต่อหลายครั้งที่มีความสุขกับการคิด
หลายต่อหลายครั้งที่มีความทุกข์กับการคิด

ความคิดมนุษย์ เป็นรอยต่อจาก สิ่งที่เป็นมโนภาพ
หรือควรจะเรียกมันว่า สิ่งที่สะท้อนจากประสบการณ์และจินตนาการ
จึงก่อให้เกิดความคิดมนุษย์

เจ้าความคิด บางครั้งมันก็ดูซับซ้อน
เจ้าความคิด บางครั้งมันก็ดูไม่มีอะไร
เจ้าความคิด บางครั้งมันก็โลดแล่นไปไม่หยุด

มโนภาพที่ฝังมันไปได้เรื่อยๆ
จากสิ่งที่ผ่าน ก่อให้เกิดอยากให้เกิดซ้ำ
จากสิ่งที่ผ่าน ก่อให้เกิดอยากแก้ไข
จากสิ่งที่ผ่าน ก่อให้เกิดความกลัว
จากสิ่งที่เคยเห็น ก่อให้เกิดอยากเป็นในแบบที่เห็น
จากสิ่งที่เคยเห็น ก่อให้เกิดอยากมีในแบบที่เห็น

มโนภาพความคิด มันผุดมาจากสิ่งที่เราผ่านพบ
ไม่ว่าจะการกระทำที่เราชอบใจ หรือ ไม่ชอบใจ
ไม่ว่าจะเป็นการพบเห็น ดู ได้ยินเสียง แล้วอยากมีอยากเป็น
ไม่ว่าจะเป็นรสสัมผัส ที่เราเคยได้รับ แล้วอยากรับรู้ และไม่อยากรับรู้

ความนึกคิดมันล้วนเกิดมาจากประสบการณ์และจิตนาการของเราทั้งนั้น
สิ่งที่จะหยุดความคิดมนุษย์ได้อย่างสิ้นเชิงคือ สติ

ที่จะจับความคิดของคนเราได้ว่า
เรากำลังคิดอะไรอยู่ และความคิดไหนที่ทำให้เราเศร้าหมอง
ความคิดไหนที่ทำให้เราสุขสุนทรีย์
และจิตเราที่หลงไปในตามวังวนแห่งความคิดเป็นแบบไหน

และจะออกมาจากวังวนแห่งความคิดคืออยู่กับปัจจุบันนั่นเอง
โฟกัสในสิ่งที่ทำ จดจ่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ความคิดจะหยุดที่ตรงหน้า และลงมือทำจากสิ่งที่คิด

หยุดความคิดที่ก่อให้เกิดการกระทำที่ไม่ดี
สร้างความคิดที่ก่อให้เกิดงานที่สร้างสรรค์
เราเลือกได้ว่าจะให้เราคิดอย่างไร
แค่ใช้สติในการคิด เท่านั้นเอง

เดินต่อไป............นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@

ปิดหู ปิดตา ปิดปาก





บางครั้งคนเราก็ต้องรู้จักปิดหู ปิดตา ปิดปาก
เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า ในเส้นทางของตัวเราเอง



ทำไมนะหรอค่ะ  การปิดหู ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงใดๆ
นอกจากเสียงในใจของเราที่บอกว่าเราต้องทำอะไร

การปิดตา ทำให้เราไม่มองเห็นในเส้นทางคนอื่น
เพื่อเกิดความรู้สึกหลงทาง ในเส้นทางของเรา

การปิดปาก ทำให้เราหยุดพูดในสิ่งที่เรากำลังเดินทาง
เพื่อมุ่งกับการสร้างผลลัพท์ตรงหน้าเราให้พูดแทนเราทุกคำ

การเดินทาง บางครั้งเรามอง ศึกษา ดูเส้นทางใครอื่น
มาหลากหลายเส้นทางแล้ว

เราก็ควรกลับมามองเส้นทางตัวเอง
นำข้อมูลต่างๆ มาประยุกต์ และวางแผน

แล้วเดินทางในเส้นทางของเรา ตามแผนงานที่เราวางไป
ไปตามเข็มทิศที่เราเขียน เพราะปัจจัยในการเดินทางทั้งหมด
ขึ้นอยู่กับทางที่เราเดินตรงหน้า ไม่ใช่เส้นทางใครอื่น
หรือเสียงใครอื่นที่มาบอกเรามากมาย

แต่เป็นตัวเรา เสียงความคิดเรา ที่ต้องเดินไปข้างหน้า
อย่างตั้งมั่นและแน่วแน่  อะไรคือสิ่งที่ต้องเดินไป
คนที่รู้ในเส้นทางเรา มีเพียงเราเท่านั้นที่จะตอบได้

เดินต่อไป.....นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ความฝัน


ความฝัน หรือเป้าหมายที่อยากจะเป็นเราในอนาคต



มีคนหนึ่งคนบอกเราว่า ความฝันเค้าไม่เคยเปลี่ยน
แต่เค้าเปลี่ยนวิถีที่ทำเพื่อไปให้ถึงความฝัน

มีคนหนึ่งคนบอกเราว่า เค้าไม่มีความฝัน
แต่พอค้นลึกลงไปแล้ว เค้าเคยมีความฝัน
และด้วยภาระหน้าที่ที่เค้าต้องรับอยู่ ความฝันเค้าสลายไป
เค้าต้องทิ้งความฝัน เพื่อ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญกว่า
มีหลายสิ่งที่เค้าต้องทำมากกว่าจะตามฝันตัวเค้าเอง

มีคนหนึ่งคนบอกเราว่า เค้าไม่มีความฝัน
แต่พอค้นลงไป เพราะความฝันที่คนทั่วไปใฝ่ฝัน
เค้าได้มันมาหมดแล้ว ตั้งแต่เกิด เติบใหญ่
เค้าได้ใช้ชีวิตที่คนอื่นใฝ่ฝัน
แต่ถ้ามองไปถึงเป้าหมายที่เค้าอยากจะไปนั้น
เค้าอยากไปนิพพาน

มีคนหนึ่งคนบอกเราว่า เค้ามีความฝัน
แต่พอถามถึงแผนที่ไล่ตามความฝัน
เค้าบอกว่าไม่เคยเขียนแผนที่ เค้าใช้ความสุข
เค้าไม่ได้โฟกัสที่ความฝันว่าเค้าจะไปถึงฝันอย่างไร
แต่เค้าโฟกัสว่าเค้าจะมีความสุขในปัจจุบันอย่างไร

อืม.....เป็นค่ำคืนที่ได้ทบทวนตัวเราเอง
สิ่งที่เราเห็นในตัวหนึ่งคนเป็นได้ มันคือแนวคิดที่เค้าคิดนั่นเอง

ไม่มีสิ่งไหนผิดหรือถูกในชีวิต
มีแต่เรามีความสุขกับชีวิตแบบไหนมากกว่านะ

อะไรคือสิ่งที่เราโฟกัสในหนึ่งวัน
อะไรคือสิ่งที่เราคิดในหนึ่งวัน
อะไรคือสิ่งที่เราตามหาในชีวิต
อะไรคือสิ่งที่เราต้องการในหนึ่งชีวิตกันแน่แท้

นั่นละ.....คือพ้อยและเป็นสิ่งที่เราจะเดินมันไปถึง
หลายต่อหลายครั้งที่เรานั่งคุยกับใครอื่น
เพื่อดูแนวคิด ความคิดใครอื่น เพื่อเปิดโลกทัศน์ในตัวเอง

มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเราได้กลับมาทบทวนตัวเราได้เหมือนกันนะ
ทำไมนะหรอ อืม...ไม่รู้สินะ เราคิดว่า

เหมือนบางครั้งเราอาจจะได้เห็นอะไรในตัวคนมั่ง
มนุษย์มีความคิดที่ซับซ้อนยากเกินจะคาดเดา

เลยเป็นอะไรที่รู้สึกว่าศึกษาด้านนี้แล้วสนุก
เป็นศาสตร์ในการที่เราจะสามารถเข้าใจมนุษย์ได้มากขึ้น

มันทำให้เราเห็นอะไรบนโลกใบนี้เพิ่มขึ้น
ภาพในการมองโลกและผู้คนก็เปลี่ยนไปนะ

สุดท้ายแล้วนะ มนุษย์ก็เดินตามวิถีที่คิดและทำ
อยากใช้ชีวิตแบบไหน ขึ้นอยู่กับเราคิดและทำแบบไหน
แค่นั่นแหละ  พ้อยของชีวิต ไม่มีอะไรเลย

เดินต่อไป นักเดินทางตัวน้อยๆ
@...Miiez...@

วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

โลกแห่งวังวน


มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในโซเซียลมากมายในขณะนี้
ทำไมคนมีเงินนับหมื่นล้าน ถึงหาได้มีความสุขไม่



อีกครั้งแล้วที่ทำให้เราได้นึกย้อนกลับไปมองดู
เหตุเกิดจากมนุษย์ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วตนทุกข์ในเรื่องอะไร
เลยหลงวังวนอยู่ในทุกข์อยู่ร่ำไป หาทางออกไม่เจอ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องนัก

คำว่าผิด คำว่าถูก ใครกันเป็นคนบัญญัติ ข้อกฏเหล่านั้น
แน่แท้แล้ว หาคำตอบที่ถูกคงยากนัก
แต่เราอยู่ในที่แห่งใด ที่แห่งหนึ่งมีกฏ มีระเบียบ

จะอยู่อย่างผาสุกได้ ก็ต้องรู้จักการเคารพกฏเกณฑ์
ไม่ใช่คิดว่า มีอำนาจ มีบารมี มีเกียรติ มีเงินตรา
แล้วจะทำสิ่งใดก็ได้ อยู่เหนือทุกกฏเกณฑ์ หาใช่สิ่งที่ถูกไม่

อะไรผิดว่าไปตามผิด ขอบคุณคนเตือนแล้วแก้ไข
อย่าน้อมรับแต่คำชอบจงรู้จักรับคำผิดด้วย
นั่นละคือที่มาของคำว่ารับผิดชอบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ถ้ายังติดในวังวน ก็ยังคงเกิดทุกข์ได้อยู่ร่ำไป
ถ้าไร้ซึ่งสติไตร่ตรองทุกสิ่ง ก็คงเปรียบเหมือนชีวิตหลงโลกไร้ครรลอง

สักแต่ว่าหลง มองไปก็ว่าทุกสิ่งดี
สักแต่ว่าโกรธ  มองไปเห็นแต่คนติติง
สักแต่ว่าโลภ  มองไปเห็นแต่เอาแต่ได้

กรรมจะเกิดเช่นไร อยู่ที่จิตคิดมาเช่นไร
ไม่มีสิ่งใดเกิดได้แบบไม่ทันคิด
มีแต่ดูไม่ทันความคิดที่จะหยุดสิ่งที่คิดทัน

ทุกดวงจิตมีมารร้ายอยู่ในตัว เราจึงต้องมีสติไว้ควบคุมนางมารร้าย
เรียกมันว่า ดี ชั่ว สิ่งที่คุมความมืดมิดในใจไม่ให้เกิด
คือสติ ที่ก่อให้เกิดความยั่งคิด ชั่งใจ ชั่งน้ำหนักในการทำสิ่งใด

คิดให้ดีก่อนจะทำหนึ่งสิ่ง
คิดให้ดีก่อนจะพูดหนึ่งคำ

ทุกสิ่งที่ก่อกรรมแล้ว เรียกคืนไม่ได้
จงมีสติอยู่กับตัวให้มั่นก็พอแล้ว

เดินต่อไป นักเดินทางตัวน้อยๆ
@...Miiez...@

วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

โซเซียลกับสภาวะจิต





ใช้โซเซียลในการฝึกจิต ทดสอบจิตได้นะ
โซเซียลเปรียบเหมือนโลกเสมือนที่จำลองสังคมไว้อีกหนึ่งทาง



บางครั้งเราเห็นแล้วเราดันไม่หยุดแค่ที่เห็น
จิตมันวิ่งตามสิ่งที่เราเห็น ไปเป็นความนึกคิด และขยายสิ่งที่คิดต่อไปเรื่อยๆ

ทั้งเรื่องดราม่า เรื่องคนอื่น เรื่องอื่นใด
มันวิ่งเข้ามาให้วุ่นได้โดยง่าย

และในตอนที่เราโพสต์ข้อความใด ข้อความหนึ่ง
เราฝึกจิตในการมองให้เห็นมากขึ้นว่า

ปัจจุบันอยู่ส่วนไหนกันแน่
จิตหลุดออกจากตัวเอง จิตไปอยู่ในภวังค์ห้วงความคิด
จิตมีความคาดหวัง จิตมีความอยากรู้ จิตมีความหลงใหล

แต่ทุกอย่างคือโลกเสมือน ซ้อนทับบนโลกอีกทางหนึ่ง
และมันทำให้เห็นถึงจิตที่ฟุ้งซ่านได้ง่ายขึ้น

เหมือนโซเซียลคือที่ประลอง การอยู่กับผู้คนในการเอาตัวเองออกสู่โลกกว้าง

ทำอย่างไรให้จิตอยู่กับปัจจุบันไม่ใช่จิตอยู่กับอดีตและอนาคต
สุดท้ายมันคือการฝึกจิต และใช้สติให้เห็นปัจจุบันให้ง่ายขึ้น

มองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
มองเห็นความรู้สึก นึกคิด ที่ปรับเปลี่ยนตามสภาวะจิต
มองเห็นความฟุ้งซ่าน ลมปราณแตกซ่านของจิตในทุกอารมณ์
มองเห็นปัจจุบัน ขณะ ให้มากขึ้น

การที่จิตหลุดออกจากปัจจุบันขณะนั้นโคตรง่ายมาก
การดึงสติให้อยู่กับปัจจุบันเป็นเรื่องโคตรยาก

คำว่าทำปัจจุบันขณะ โดยไม่มีสิ่งใดเข้ามาวอกแวก
ต้องใช้สติ และสมาธิสูงมาก ในการกำจัดนิวรณ์ ความฟุ้งซ่านของจิตออกไป

พอเข้าใจคำว่าจิตอยู่กับปัจจุบัน นั่นละคือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า
เรายังคงต้องเดินทางไกลอีกมากโขเลยละ

ฝึกจิตให้มีสติ และอยู่กับปัจจุบันขณะ นั่นละคือทางที่จะหลุดพ้นได้
หยุดที่แค่รู้ หยุดการมโนภาพทุกสิ่ง มองเห็นทุกขณะจิต

พูดได้คำเดียว โคตรยาก
แต่ก็คงจะเดินทางนี้ต่อไป ......

หนึ่งชีวิต ต่อลมหายใจด้วยสติ
หนึ่งนึกคิด  หยุดมโนภาพได้ด้วยสติ
หนึ่งปัญญา  จะโผล่มาเมื่อมีสติ

สติเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต
อย่าปล่อยให้สติขาดหาย ไม่งั้นชีวิตวุ่นวายยุ่งเยิงเป็นแน่แท้

เดินต่อไป...............นักเดินทางตัวน้อยๆ

@...Miiez...@